ในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อทำการวางแผนทางการเงิน ผู้วางแผนทางการเงินจะต้องนำข้อมูลมาทำการวิเคราะห์ในเบื้องต้น เพื่อทำให้เห็นถึงภาพรวมทางการเงิน รวมทั้งการรับรู้และตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนทางการเงิน หลังจากทำการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นแล้ว ผู้วางแผนทางการเงินจะต้องนำข้อมูลเบื้องต้นดังกล่าว มาจัดทำงบทางการเงินทั้งในส่วนของงบดุลส่วนบุคคล และงบกระแสเงินสดส่วนบุคคล เพื่อพิจารณาสถานการณ์ทางการเงิน โดยทำการวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินส่วนบุคคล ซึ่งจะแบ่งการวิเคราะห์เป็น 3 ด้านด้วยกัน คือ 1. การวิเคราะห์อัตราส่วนสภาพคล่อง 2. การวิเคราะห์อัตราส่วนหนี้สิน 3. การวิเคราะห์อัตราส่วนการออมและการลงทุน อย่างไรก็ตามการวางแผนทางการเงินไม่ได้จำกัดเฉพาะเรื่องการเงินเท่านั้น ยังเกี่ยวข้องกับเรื่องภาษี ประกันชีวิต การทำแผนทางการเงิน จึงต้องเกี่ยวข้องกับผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น ๆ ดังนั้น หน้าที่อีกอย่างหนึ่งของผู้วางแผนทางการเงินก็คือ การประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ เพื่อให้แผนทางการเงินที่ได้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ความสำคัญของการวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน ตามลักษณะและประเภทของข้อมูลคือ การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลในแต่ละส่วนนั้น มีวัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์ที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นที่ครอบคลุมทั้งในส่วนของข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน การจัดการความเสี่ยง และการประกันการลงทุน และการออมเพื่อวัยเกษียณ ซึ่งวัตถุประสงค์สำคัญของการวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบดูว่า มีปัญหาด้านใดในปัจจุบัน และมีโอกาสที่จะประสบกับปัญหาด้านใดในอนาคต โดยแนวทางในการวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบดังกล่าว จะใช้วิธีการพิจารณาดูว่า มีแนวคิด มีการรับรู้ […]
Author Archives: onmoneymanagement
ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เป็นคำกล่าวที่ทุกคนคุ้นหู และเป็นที่ยอมรับทั่วไปว่า ในความเป็นจริงชีวิตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่มีใครสามารถกำหนดได้ว่าจะตายเมื่อใด และจะตายอย่างไร มนุษย์นั้นย่อมมีความปรารถนาที่จะมีชีวิตอย่างมีความสุขทั้งกายและใจ มีการศึกษาที่ดี มีรายได้ที่เพียงพอ และมีทรัพย์สินที่มั่นคงให้แก่ลูกหลานในอนาคต แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น หลายอย่างอาจไม่เป็นไปตามที่หวัง อาจจะประสบกับสิ่งที่ไม่คาดหวังและไม่พึงประสงค์ เช่น การตกงาน การเสียชีวิตของสามีหรือภริยาเนื่องจากอุบัติเหตุเมื่อลูกยังเล็ก ไฟไหม้บ้าน เป็นต้น เหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ย่อมนำมาซึ่งความสูญเสียทั้งทรัพย์สิน และมีผลกระทบต่อสภาพจิตใจ อาจสามารถจัดการกับเหตุการณ์ และผลที่ตามมาจากเหตุการณ์นั้น ๆ ได้อย่างเหมาะสม ก็จะสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างเป็นสุขหรือหมดห่วง ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่ก็ตาม จึงอาจกล่าวได้ว่า ทุกคนล้วนต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนอยู่ตลอดเวลา การวางแผนการจัดการเพื่อลดความสูญเสีย ที่อาจจะเกิดขึ้นจากความเสี่ยงภัยนั้น นับได้ว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ 1. ความหมายของความเสี่ยงภัย ความเสี่ยงที่รู้จักและเข้าใจ โดยทั่วไปนั้นในที่นี้จะหมายถึง ความเสี่ยงภัยซึ่งได้มีการให้ความนิยาม ความหมายของความเสี่ยงภัยไว้มากมายเช่น 1.1 ความเสี่ยงภัย คือ โอกาสที่จะเกิดความเสียหาย (the chance of loss) หมายถึงสภาวการณ์ที่อาจจะต้องเผชิญกับความเสียหาย หรือสภาวการณ์ที่อาจจะมีความเสียหายเกิดขึ้น โดยระบุออกมาเป็นค่าความน่าจะเป็นในรูปของตัวเลขหรือร้อยละได้ หรืออีกนัยหนึ่ง ความเสี่ยงภัยตามความหมายนี้ จะหมายถึงโอกาสที่จะเกิดความเสียหาย หรือไม่เกิดความเสียหาย ซึ่งยังไม่ทราบแน่ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่นั่นเอง […]
ก่อนที่จะวางแผนทางการเงิน และนำแผนทางการเงินที่วางไว้ไปปฏิบัติให้กับลูกค้าได้นั้น นักวางแผนทางการเงินจะต้องทำการกำหนดเป้าหมายที่ลูกค้าต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับเปลี่ยนเป้าหมายที่ลูกค้าต้องการให้เป็นเป้าหมายทางการเงิน และถ้าหากเป้าหมายที่ลูกค้าต้องการนั้นมีหลายหลายเป้าหมายด้วยกัน นักวางแผนทางการเงินก็จะต้องทำการเรียงลำดับความสำคัญของเป้าหมายเหล่านั้นก่อน นักวางแผนทางการเงินจะต้องทำการกำหนดเป้าหมาย และเรียงลำดับความสำคัญของเป้าหมายต่าง ๆ ร่วมกับลูกค้า อย่างไรก็ตาม การกำหนดเป้าหมายทางการเงิน เพื่อที่จะนำไปสู่การปฏิบัติตามแผนทางการเงินที่วางไว้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่นักวางแผนทางการเงิน จะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลความต้องการ ความจำเป็น รวมทั้งข้อมูลอื่น ๆ ของลูกค้า และสมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับการวางแผน ทั้งนี้ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ลูกค้าเปิดเผยให้กับนักวางแผนทางการเงิน ซึ่งก็ต้องกลับไปที่จุดเริ่มต้นในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อให้เกิดความเชื่อถือและไว้วางใจ ในการเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วนและถูกต้อง 1. การเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพและข้อมูลเชิงปริมาณ ก่อนที่นักวางแผนทางการเงินจะทำการวิเคราะห์สถานะทางการเงินของลูกค้า เพื่อทำการวางแผนทางการเงิน ซึ่งจะนำไปสู่การปฏิบัติตามแผนทางการเงินที่วางไว้นั้น นักวางแผนทางการเงินและลูกค้า จะต้องร่วมมือกันในการกำหนดความต้องการ และความจำเป็นของลูกค้า เพื่อนำไปสู่การกำหนดเป้าหมายที่ต้องการ และปรับเปลี่ยนเป้าหมายดังกล่าวให้อยู่ในรูปของเป้าหมายทางการเงินที่เหมาะสม แล้วจึงทำการเรียงลำดับความสำคัญของเป้าหมายทางการเงินดังกล่าว การที่นักวางแผนทางการเงินจะสามารถ กำหนดเป้าหมายทางการเงินได้ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น นักวางแผนทางการเงินจะต้องทำการสำรวจทัศนคติ ความคาดหวัง และระยะเวลาที่ต้องการบรรลุเป้าหมายของลูกค้า ทั้งนี้หมายความว่านักวางแผนทางการเงิน คำนึงถึงผลประโยชน์ที่ลูกค้าต้องการได้รับจากการวางแผนทางการเงินเป็นอันดับแรก แล้วหาแนวทางที่จะทำให้ลูกค้าสามารถมีโอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ต้องการ นักวางแผนทางการเงินจำเป็นต้องชี้แจงให้ลูกค้า ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลที่ต้องเก็บรวบรวมว่า ถ้าหากมีการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง จะส่งผลทำให้แผนทางการเงินที่จะทำขึ้นอาจไม่สามารถนำไปปฏิบัติให้บรรลุถึงเป้าหมายที่ต้องการได้ ถ้านักวางแผนทางการเงินไม่สามารถที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับลูกค้าได้อย่างครบถ้วนและถูกต้อง ก็อาจส่งผลทำให้ไม่สามารถจะทำแผนทางการเงินให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดได้ นักวางแผนทางการเงินก็อาจจะต้องทำการระบุถึงข้อจำกัดในการเก็บรวบรวมข้อมูล และระบุถึงผลกระทบต่อแผนทางการเงินที่จะทำขึ้นไว้อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ในการกำหนดขอบเขตของความสัมพันธ์ ระหว่างนักวางแผนทางการเงินและลูกค้า […]
ในการวางแผนทางการเงิน จะต้องมีการนำต้นทุนค่าเสียโอกาสเข้ามาพิจารณาด้วยเสมอ แนวคิดมูลค่าเงินตามเวลาเป็นแนวคิดที่อธิบายถึงต้นทุนค่าเสียโอกาสของเงินทุนที่ถูกนำมาใช้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เงินในเวลาแตกต่างกัน จะมีมูลค่าที่ไม่เท่ากัน อันเนื่องมาจากเงินที่ได้มาก่อนนั้น สามารถที่จะนำไปลงทุนสร้างผลตอบแทนได้ก่อน ทำให้เงินจำนวนเดียวกันในเวลาที่ต่างกันนั้น มีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยที่แตกต่างกันไป ดังนั้น การเปรียบเทียบเงินในเวลาต่างกัน จึงไม่สามารถทำได้โดยตรง แต่จะต้องมีการเปลี่ยนเงินแต่ละจำนวน ที่จะนำมาเปรียบเทียบกันให้เป็นเงินในเวลาเดียวกันก่อน อนุมานได้กับการบวกลบเลขที่มีฐานต่างกัน ไม่สามารถที่จะบวกลบกันได้โดยตรง จะต้องมีการเปลี่ยนเลขที่มีฐานต่างกันนั้น ให้เป็นฐานเดียวกันก่อน จึงจะสามารถนำมาบวกลบกันได้ แนวคิดมูลค่าเงินตามเวลานั้น ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะการเปรียบเทียบต้นทุนในการซื้อสินค้าหรือบริการ ยังมีการตัดสินใจระหว่างการซื้อและการเช่าซื้อ แต่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการตัดสินใจในทางเลือกการลงทุนต่าง ๆ อีกด้วย แนวคิดนี้จะมีความสำคัญอย่างมาก สำหรับการตัดสินใจต่าง ๆ ทางการเงิน ที่ต้องเกี่ยวข้องกับกระแสเงินสด ที่จ่ายหรือรับหลาย ๆ จำนวน ในเวลาที่ต่างกัน ในการตัดสินใจทางด้านการเงินส่วนบุคคล มีความจำเป็นในการประยุกต์ใช้แนวคิดมูลค่าเงินตามเวลา ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดเป้าหมายทางการเงินที่กำหนดไว้ ซึ่งจะทำให้สามารถทราบว่า จะต้องออมเงินในแต่ละงวดเท่าใด เพื่อให้ได้เงินจำนวนหนึ่งที่ต้องการในอนาคต นอกจากนั้นยังสามารถนำแนวคิดดังกล่าวนี้ ไปประยุกต์ในการคำนวณจำนวนเงินที่จะต้องชำระคืนเงินกู้ ทั้งในส่วนของการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย ตามอัตราที่กำหนดไว้ให้แก่เจ้าหนี้ ซึ่งถ้าหากการชำระคืนในแต่ละงวดมีจำนวนชำระคืนเท่า ๆ กัน ภายในระยะเวลาที่กำหนด จะเรียกการผ่อนชำระคืนเงินกู้นี้ว่า loan amortization ทั้งนี้เงินที่ชำระคืนทั้งหมดทุกงวดรวมกัน จะมีมูลค่าปัจจุบันเท่ากับจำนวนเงินที่ลูกหนี้ได้กู้ยืมมาใช้ในปัจจุบัน การประยุกต์ใช้แนวคิดดังกล่าว ยังมีประโยชน์ในการเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน […]
ในการดำเนินชีวิตประจำวัน จะมีค่าใช้จ่ายอื่นเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งในส่วนของค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคและบริโภค และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ แต่ในบางครั้งก็อาจต้องใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่ได้วางแผน หรือคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าได้ เช่น การเจ็บไข้ได้ป่วยกะทันหัน การเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น ในส่วนของรายรับ โดยส่วนใหญ่ทั่วไปจะเกิดขึ้นเฉพาะช่วงปลายเดือนเท่านั้น ยกเว้นในบางครั้ง อาจมีรายได้บางส่วนซึ่งเป็นรายได้ที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน เช่น รายได้จากรางวัลหรือการมีโชคต่าง ๆ เป็นต้น จะเห็นว่ากระแสเงินสดดังกล่าวเกิดขึ้นได้ทั้งที่ทราบและไม่ทราบ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาการขาดสภาพคล่อง และจำเป็นที่จะต้องอาศัยกระบวนการและวิธีการ ในการบริหารเงินสดเข้ามาใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อช่วยทำให้ไม่เกิดปัญหาสภาพคล่อง และในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องมีการสำรองเงินสดไว้เกินความจำเป็น อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการซื้อสินค้าหรือบริการใด ๆ อาจจะใช้การเช่าเป็นเครื่องมือทางการเงิน เพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการ ทดแทนการซื้อโดยการใช้สินเชื่อ การเช่าจึงอาจจัดได้ว่าเป็นเครื่องมือ ที่สามารถจัดหาเงินทุนได้ทางอ้อมแทนการขอใช้สินเชื่อได้อีกด้วย ในบทความนี้จะมาชวนท่านผู้อ่าน มาดูตราสารทางการเงินที่สามารถนำมาใช้ในการบริหารสภาพคล่อง ทั้งในส่วนของการจัดการเงินสด (cash management) และการจัดการสินเชื่อ (credit management) ที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงกระบวนการจัดกลุ่มใดเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย ระหว่างการซื้อหรือการเช่า (buying or leasing) ในฐานะเป็นแหล่งที่มาของสภาพคล่องส่วนที่ขาด ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับกระบวนการวางแผนการเงินส่วนบุคคลด้วยเช่นกัน พร้อมแล้วมาตามอ่านไปด้วยกันเลยครับ การบริหารเงินสด ในแต่ละวันถูกคนแต่ละคนมีการถือครองเงินสดเป็นจำนวนที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฐานะทางสังคมและฐานะทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากการที่บุคคลแต่ละคน จะมีรายรับและรายจ่ายในรูปของเงินสดในแต่ละวัน […]
ปัจจุบันความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีการแพทย์ และคุณภาพชีวิตของความเป็นอยู่ของประชากรโลกพัฒนาสูงขึ้น ส่งผลให้ประชากรโลกมีอายุที่ยืนยาวมากยิ่งขึ้น ถ้าหากสมมุติว่าอายุคาดหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 80 ปี ก็หมายความว่าจะมีชีวิตอยู่ภายหลังเกษียณอายุอีก 20 ถึง 25 ปี เนื่องจากคนโดยทั่วไปที่เป็นพนักงานบริษัทเอกชน หรือรับราชการส่วนใหญ่มักจะเกษียณอายุเมื่อมีอายุอยู่ในช่วง 55 – 60 ปี และเมื่อเกษียณอายุรายได้ที่เคยได้รับในช่วงก่อนเกษียณอายุก็จะต้องสูญเสียไปด้วย ดังนั้น จะทำอย่างไรที่จะรักษาระดับคุณภาพชีวิต เมื่อต้องสูญเสียรายได้ในช่วงหลังเกษียณ ให้เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกษียณ ซึ่งแนวทางหนึ่งที่จะสามารถช่วยได้เป็นอย่างดีก็คือ การเตรียมความพร้อม และการวางแผนเพื่อวัยเกษียณที่ดี ในช่วงก่อนเกษียณนั่นเอง 1. ความหมายและความสำคัญของการวางแผนเพื่อวัยเกษียณ ก่อนที่จะเริ่มวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณ มีความจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจถึงความหมาย และความสำคัญของการวางแผนเพื่อวัยเกษียณอย่างถ่องแท้เสียก่อน 1.1 ความหมายของการวางแผนเพื่อวัยเกษียณ การเกษียณอายุหมายถึง การที่บุคคลถอนตัวออกจากงานประจำที่ทำอยู่ เมื่อมีอายุครบในระหว่าง 55-60 ปี โดยช่วงอายุที่จะเกษียณนั้นขึ้นอยู่กับอาชีพ และระเบียบข้อบังคับของแต่ละหน่วยงาน บางแห่งยังยอมรับบุคคลที่มีอายุเกินกว่า 60 ปีทำงานต่อไปได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของบุคคลนั้น ๆ นอกจากนี้สำหรับบางคนอาจเลือกที่จะเกษียณอายุก่อนช่วงเวลาที่กำหนด ขึ้นอยู่กับเหตุผลและความพร้อมของแต่ละบุคคล การเกษียณอายุย่อมหมายถึงการสิ้นสุดลงของรายได้ประจำ ที่เคยได้รับจากการทำงาน ในขณะที่รายจ่ายยังคงดำเนินต่อไป และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้น อันเป็นผลจากค่ารักษาพยาบาล ในการดูแลรักษาสุขภาพที่ทรุดโทรม […]
อัตราคิดลด (discount rate) คือ อัตราที่ใช้ในการแปลงมูลค่าในอนาคต ให้กลับมาเป็นมูลค่าในปัจจุบัน ซึ่งช่วยให้สามารถเปรียบเทียบมูลค่าสองมูลค่า ที่อยู่ในช่วงเวลาต่างกันได้ง่ายขึ้น โดยอัตราคิดลดยังสามารถสะท้อนพฤติกรรมความอดทนของบุคคลได้อีกด้วย ซึ่งมีนัยยะต่อการเปรียบเทียบทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนต่าง ๆ ในเวลาที่แตกต่างกันด้วย ตัวอย่างเช่น ในการวิเคราะห์ต้นทุน-ผลประโยชน์ (cost-benefit analysis) หรือการประเมินความคุ้มค่าของนโยบายสาธารณะ บทความนี้แสดงให้เห็นว่า อัตราคิดลดส่วนบุคคลนั้น จะสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ และยังเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับลักษณะทางเศรษฐกิจและสังคมอีกด้วย ตามมาอ่านไปด้วยกันได้เลยครับ อัตราคิดลดคืออะไร หากว่าจำเป็นจะต้องตัดสินใจอะไรสักอย่างหนึ่ง ที่มีผลกระทบกับชีวิตไปในระยะยาว เช่น การตัดสินใจออมเงินเพื่ออนาคต การตัดสินใจบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ หรือการตัดสินใจศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น จะต้องเปรียบเทียบระหว่างประโยชน์ หรือความสุขที่จะได้รับในอนาคต และประโยชน์หรือความสุขที่พึงจะได้ในปัจจุบัน โดยจะเลือกทางเลือกที่ให้ประโยชน์สูงกว่า ฉะนั้น การเลือกที่จะออมเงินเพื่อผลตอบแทนในอนาคตมีความจำเป็นที่สูงกว่าประโยชน์จากการบริโภคในปัจจุบัน หรือเลือกการจะรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพเพื่อการมีสุขภาพแข็งแรงในอนาคต ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าการบริโภคอาหารหวานหรือไขมันสูงที่มีรสชาติดี อัตราคิดลด (discount rate) คืออัตราที่ใช้ในการแปลงมูลค่าในอนาคตมาเป็นมูลค่าในปัจจุบัน ซึ่งสามารถช่วยให้สามารถเปรียบเทียบมูลค่าของสองมูลค่า ที่อยู่ในช่วงเวลาต่างกันได้ง่ายขึ้น จะเห็นว่าอัตราคิดลดสามารถสะท้อนพฤติกรรมความอดทนของบุคคลได้ หากคนใดมีอัตราคิดลดที่สูง ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความอดทนที่ต่ำมักจะเลือกการบริโภคในปัจจุบัน และยิ่งจำเป็นต้องใช้สิ่งจูงใจในอนาคต ซึ่งมีมูลค่าสูงขึ้นเพื่อจูงใจให้เลือกชะลอการบริโภคในปัจจุบัน เพื่อรับผลประโยชน์ที่จะได้ในอนาคต ในทางตรงกันข้าม คนที่มีอัตราคิดลดยิ่งต่ำก็ยิ่งสะท้อนถึงความอดทนที่สูง คนนี้สามารถชะลอการบริโภคในปัจจุบัน แล้วเลือกรับประโยชน์ในอนาคต ด้วยสิ่งจูงใจในอนาคตที่มีมูลค่าต่ำกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราคิดลดมีอัตราคิดลดสูง […]
- 1
- 2