ธุรกิจอาจระดมทุนโดยการเสนอขายหลักทรัพย์ในตลาดตราสารทุนได้อีกทางหนึ่ง ตลาดตราสารทุนเป็นตลาดเพื่อการซื้อขายตราสารทางการเงิน ที่พิจารณาได้ว่าเป็นส่วนทุนของบริษัท ประกอบด้วย หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ์ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิทธิ์ หรือตราสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับตราสารเหล่านั้น ในการระดมเงินทุนโดยตรงในตลาดตราสารทุนนั้น ตลาดแรกสำหรับตราสารทุนออกใหม่ มีบทบาทในการเคลื่อนย้ายเงินทุนจากผู้มีเงินออมมาสู่บริษัทที่ต้องการเงินทุน โดยเป็นแหล่งกลางในการระดมเงินทุนจากผู้มีเงินออม ที่ต้องการมีส่วนในความเป็นเจ้าของกิจการ เมื่อบริษัทต้องการระดมเงินทุน ก็สามารถทำได้โดยการจำหน่ายตราสารทุนออกใหม่ และนำเงินที่ได้ไปลงทุนในโครงการต่าง ๆ ของบริษัทต่อไป
1. บทบาทสำคัญของตราสารทุน
ตลาดตราสารทุนจึงมีบทบาทที่สำคัญ 3 ประการ คือ
1.1 บทบาทในการเคลื่อนย้ายเงินทุน
1.2 บทบาทในการก่อให้เกิดสภาพคล่องในการซื้อขายตราสาร
1.3 การซื้อขายในตลาดตราสารทุน ยังช่วยส่งสัญญาณถึงผลการดำเนินการของบริษัทผู้ออกตราสาร ให้ผู้มีส่วนร่วมในตลาดตราสารทุนได้ใช้เพื่อการตัดสินใจ
2. ประเภทของตราสารทุน
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้นิยามหุ้นทุนจดทะเบียนเอาไว้ว่า เป็นหลักทรัพย์ที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของในบริษัทซึ่งได้แก่
2.1 หุ้นสามัญ (common stock) เป็นตราสารประเภทหุ้นทุน ที่ผู้ถือหุ้นจะมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของกิจการ ตามสัดส่วนมูลค่าของหุ้นสามัญที่ครอบครอง กล่าวคือความเป็นเจ้าของถูกแบ่งตามจำนวนหุ้น และอัตราส่วนการถือหุ้น ซึ่งเป็นจำนวนหุ้นที่ถือเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนหุ้นที่ออก และจำนวนหุ้นที่มีทั้งหมด หุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์ที่แสดงความเป็นเจ้าของบริษัท โดยรับผิดชอบหนี้สินที่จำกัดในบริษัท นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นสามัญในฐานะเจ้าของบริษัท ยังมีสิทธิในการลงคะแนนเสียงในเรื่องต่าง ๆ เช่น การเพิ่มทุนและการจ่ายเงินปันผลในที่ประชุมผู้ถือหุ้น และยังได้รับสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนด้วย โดยสิทธิของผู้ถือหุ้นในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์คือ มีสิทธิ์ออกเสียงในที่ประชุมพูดถึงหุ้นในการเลือกตั้งผู้บริหาร ตัดสินใจเรื่องเงินปันผล และแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี เป็นต้น
2.2 หุ้นบุริมสิทธิ (preferred stock) ผู้ถือหุ้นจะมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของกิจการคล้ายกับหุ้นสามัญ แต่จะมีข้อแตกต่างจากหุ้นสามัญคือ ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิ์ออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นน้อยกว่าผู้ถือหุ้นสามัญ แต่ก็มีสิทธิพิเศษในการได้รับเงินปันผลเหนือกว่าผู้ถือหุ้นสามัญเป็นการชดเชย
2.3 ใบสำคัญแสดงสิทธิหรือวอร์แรนท์ ตราสารทุนอีกชนิดหนึ่งได้แก่ใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อซื้อหุ้นสามัญ หรือวอร์แรนท์ในหุ้นสามัญ วอร์แรนท์เป็นใบสำคัญที่บริษัทผู้ออกให้สิทธิแก่ผู้ถือ ในการที่จะซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของบริษัทผู้ออกวอร์แรนท์นั้น ในจำนวนและราคาที่ได้กำหนดไว้แล้ว ภายในระยะเวลาหรือ ณ วันที่ได้กำหนดไว้ในวอร์แรนท์นั้น ในประเทศไทยเรียกวอร์แรนท์ประเภทนี้ว่า equity warrant
2.4 หุ้นกู้แปลงสภาพ เป็นหุ้นกู้ที่ให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นกู้ในการแปลงหุ้นกู้ฉบับนั้นเป็นหุ้นสามัญ สิทธิที่แฝงอยู่ในหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นสิทธิที่บริษัทผู้ออกหุ้นกู้ให้แก่ผู้ถือ ในการเปลี่ยนหุ้นกู้นั้นเป็นหุ้นสามัญออกใหม่ของบริษัท ได้จำนวนหนึ่งที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า ตราบใดที่ผู้ถือไม่แปลงสภาพหุ้นกู้ ผู้ถือยังคงมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ของผู้ออก และยังมีสิทธิได้รับดอกเบี้ยตามข้อกำหนดของหุ้นกู้นั้น แต่เมื่อมีการใช้สิทธิแปลงสภาพ ในงบดุลบริษัทจะปรากฏรายการส่วนของเจ้าของที่เพิ่มขึ้น และส่วนหนี้ที่ลดลง ส่งผลให้บริษัทผู้ออกสามารถออกหุ้นกู้แปลงสภาพที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าหุ้นกู้ปกติ เพราะมีสิทธิการแปลงสภาพชดเชยกับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหุ้นกู้จ่ายลดลงไปแล้ว หุ้นกู้แปลงสภาพมีลักษณะของตราสาร 2 ประเภทอยู่ในตัว
2.4.1 ลักษณะแรกเป็นลักษณะของการเป็นตราสารหนี้ ซึ่งผู้ถือจะได้รับดอกเบี้ยรายงวดเป็นจำนวนตามที่ตราไว้ ตราบที่ยังไม่มีการแปลงสภาพ อัตราดอกเบี้ยตลาดจึงมีส่วนในการกำหนดมูลค่าหุ้นกู้แปลงสภาพ อันเป็นลักษณะเช่นเดียวกับตราสารหนี้โดยทั่วไป
2.4.2 หุ้นกู้แปลงสภาพมีลักษณะของสิ่งที่ให้แก่ผู้ถือ ในการซื้อหุ้นสามัญตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้า การซื้อดังกล่าวมิได้เป็นการซื้อแต่มีการจ่ายเงินจริง แต่เป็นการซื้อโดยนำหุ้นกู้ไปแลกเป็นหุ้นสามัญตามเงื่อนไขที่กำหนด
2.5 หน่วยลงทุน (unit trust) เป็นหลักทรัพย์ที่ออกขายโดยบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) เพื่อระดมเงินเข้ากองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้น โดยบริษัทจัดการลงทุนและจัดสรรเงินในกองทุนนั้นไปลงทุน ตามสัดส่วนและเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน กองทุนที่บริษัทจัดการลงทุนก่อตั้งขึ้นนั้น สามารถแบ่งประเภทตามลักษณะการจำหน่ายและไถ่ถอนได้เป็น 2 แบบ คือ
2.5.1 กองทุนปิด (closed-end fund) เป็นกองทุนที่จำหน่ายหน่วยลงทุนในจำนวนที่แน่นอน ไม่เพิ่มขึ้นและไม่ลดลง เนื่องจากไม่มีการออกหน่วยลงทุนของกองทุนนี้เพิ่ม และไม่มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน หรือรับไถ่ถอนก่อนถึงเวลาครบอายุ มีการเปิดให้จองเพียงครั้งเดียวเมื่อจัดตั้งโครงการ มีกำหนดอายุโครงการแน่นอน
2.5.2 กองทุนเปิด (open-end fund) เป็นกองทุนที่จำหน่ายหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และรับซื้อคืนจากผู้ถือหน่วยลงทุนก่อนเวลาก่อนสิ้นสุดอายุกองทุน กองทุนเปิดจึงเป็นที่นิยมมากกว่ากองทุนปิด เพราะสภาพคล่องที่มากกว่านั่นเอง
3. ตลาดแรกของตราสารทุน
ตลาดตราสารทุนสามารถจำแนกตามลักษณะการซื้อขายหลักทรัพย์เป็น หลักทรัพย์ออกใหม่ และหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันในเวลาต่อมา ตลาดแรกหรือตลาดเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ (primary market) เป็นตลาดเพื่อการเสนอขายหลักทรัพย์กลุ่มทุนที่ผู้ต้องการเงินทุนได้ออกใหม่ แล้วนำไปขายในตลาดเป็นครั้งแรก โดยเงินทุนที่จะระดมทุนได้จะนำไปใช้เพื่อการลงทุนระยะยาว ตลาดแรกอาจจำแนกตามขอบเขตการเสนอขายตราสารแรกแก่ผู้ลงทุน ได้เป็น 2 ประเภท คือ
3.1 ตลาดแรกซึ่งจำหน่ายตราสารทุนต่อบุคคลในวงจำกัด (private placement) หมายถึง ตลาดที่จำหน่ายตราสารทุนที่ออกใหม่ได้แก่ผู้ลงทุนจำนวนจำกัด หรือผู้ลงทุนประเภทสถาบันตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
3.2 ตลาดแรกซึ่งจำหน่ายตราสารทุนแก่ประชาชนทั่วไป (public offering) เป็นตลาดเพื่อการจำหน่ายตราสารทุนของบริษัทมหาชน หรือหลักทรัพย์เพิ่มทุนของบริษัทจดทะเบียน ต่อประชาชนทั่วไป ซึ่งรวมถึงการเสนอขายตราสารทุนสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรก (initial public offering) ของกิจการที่กำลังดำเนินการขอเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ใหม่ด้วย
4. ตลาดรองของตราสารทุน
ตลาดรองหรือตลาดค้าหลักทรัพย์ (secondary market / trading market) เป็นแหล่งซื้อขายหลักทรัพย์ที่ได้ออกจำหน่าย และหมุนเวียนในระบบอยู่แล้ว ทำให้เกิดการเปลี่ยนมือระหว่างผู้ลงทุน ซึ่งถือครองหลักทรัพย์อยู่ และผู้ลงทุนรายต่อไปที่มีความประสงค์จะลงทุนซื้อหลักทรัพย์นั้น ตลาดรองของตลาดหุ้นไทยที่สำคัญได้แก่
4.1 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีบทบาทในการอำนวยความสะดวกในการซื้อขายตราสารทุนประเภทต่าง ๆ และอำนวยความสะดวกให้เกิดการซื้อขายเปลี่ยนมือในระยะต่อมา ระหว่างผู้ประสงค์ซื้อและผู้ประสงค์ขาย หรือในตลาดรองที่จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ
4.1.1 บทบาทหน้าที่หลักที่สำคัญของตลาดรอง ที่ได้จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อซื้อขายตราสารทุนมีดังนี้
4.1.1.1 บทบาทที่ 1 คือเป็นแหล่งการการซื้อขายหลักทรัพย์ ทำให้เกิดสภาพคล่องในการซื้อขายหลักทรัพย์ขึ้น
4.1.1.2 บทบาทที่ 2 คือก่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุน ในระบบการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์
4.1.1.3 บทบาทที่ 3 คือก่อให้เกิดความเท่าเทียมกันสำหรับผู้ลงทุนทุกราย ในการรับข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับหลักทรัพย์
4.1.1.4 บทบาทประการสุดท้าย คือก่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนว่า หากมีการซื้อขายที่ผิดปกติ ตลาดหลักทรัพย์จะสามารถติดตามตรวจสอบได้ มีการใช้กฎหมายและข้อกำหนดอย่างเข้มงวด
4.1.2 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้แบ่งกระดานซื้อขายหลักทรัพย์ออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
4.1.2.1 กระดานหลัก (main board) ใช้สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ทั่วไป
4.1.2.2 กระดานรายใหญ่ (big lot board) ใช้สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ทุกประเภท ที่มีปริมาณการซื้อขายตั้งแต่ 1 ล้านหลักทรัพย์ขึ้นไป หรือมีมูลค่าการซื้อขายตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป
4.1.2.3 กระดานต่างประเทศ (foreign board) ใช้สำหรับการซื้อขายหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ ที่บุคคลต่างด้าวเป็นผู้ถือครองหลักทรัพย์ตามทะเบียนผู้ถือหลักทรัพย์
4.1.2.4 กระดานหน่วยย่อย ใช้สำหรับการซื้อขายมีจำนวนรวมของหุ้นต่ำกว่า 1 หน่วยการซื้อขายซึ่งปัจจุบันเท่ากับ 100 หุ้น
4.1.2.5 กระดานพิเศษ ใช้สำหรับการซื้อขายพันธบัตร หุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นกู้
4.2 ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ เพื่อเป็นการส่งเสริมการระดมทุนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้จัดตั้งตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (Market for Alternative Investment หรือ MAI) ขึ้น ด้วยการอนุมัติของสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อสร้างช่องทางในการระดมทุนให้แก่บริษัทที่มีโอกาสเติบโตสูง (growth companies) และยังให้โอกาสธุรกิจขนาดเล็กในการขยายตัว จนกว่าจะมีขนาดใหญ่พอและมีศักยภาพที่จะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
5. ดัชนีตราสารทุน
5.1 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET index) คือดัชนีราคาหุ้นของกลุ่มที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ช่วยทำให้นักลงทุนเข้าใจถึงภาพรวมมูลค่าของหุ้น เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าของตราสารประเภทอื่น ๆ
5.2 ดัชนีกลุ่ม คำนวณจากราคาหุ้นสามัญของแต่ละกลุ่มธุรกิจ ที่ตลาดหลักทรัพย์จัดแบ่งเป็นหมวดธุรกิจ (sector) ในปัจจุบัน ที่มีลักษณะธุรกิจที่สอดคล้องกันมาอยู่ด้วยกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
5.2.1 กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (agro & food industry) ประกอบด้วย หมวดธุรกิจการเกษตร และหมวดอาหารและเครื่องดื่ม
5.2.2 กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (consumer products) ประกอบด้วย หมวดของใช้ในครัวเรือน หมวดของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ และหมวดแฟชั่น
5.2.3 กลุ่มธุรกิจการเงิน (financials) ประกอบด้วย หมวดธนาคาร หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ และหมวดประกันภัยและประกันชีวิต
5.2.4 กลุ่มวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม (industrials) ประกอบด้วย หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ หมวดเครื่องมือและเครื่องจักร หมวดบรรจุภัณฑ์ หมวดกระดาษและวัสดุการพิมพ์ และหมวดยานยนต์
5.2.5 กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (property & construction) ประกอบด้วย หมวดวัสดุก่อสร้างและหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
5.2.6 กลุ่มทรัพยากร (resources) ประกอบด้วย หมวดพลังงานและหมวดเหมืองแร่
5.2.7 กลุ่มบริการ (services) ประกอบด้วย หมวดพาณิชย์ หมวดบันเทิงและสันทนาการ หมวดการแพทย์ หมวดโรงแรมและบริการท่องเที่ยว หมวดการพิมพ์และสิ่งพิมพ์ หมวดบริการเฉพาะกิจ และหมวดขนส่งและโลจิสติกส์
5.2.8 กลุ่มเทคโนโลยี (technology) ประกอบด้วย หมวดสื่อสาร หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ และหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
5.3 ดัชนี SET 50 เพื่อเตรียมพร้อมไว้สำหรับในการออกตราสารอนุพันธ์ในอนาคต จึงได้กำหนดดัชนี SET 50 ขึ้นมา เป็นดัชนีถัวเฉลี่ยของมูลค่าทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เช่นเดียวกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ แต่จะคำนวณจากราคาหุ้นจดทะเบียนเพียง 50 บริษัท โดยคัดเลือกจากบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทุนคำนวณตามราคาตลาดสูง และมีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง หุ้นในกลุ่ม SET 50 จะมีการทบทวนทุก 6 เดือน โดยดัดเลือกตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
6. ความสัมพันธ์ระหว่างดัชนีตลาดหลักทรัพย์กับดัชนี SET 50
มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ สูงมากในอดีตที่ผ่านมาดัชนีทั้งสองมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ประมาณ 0.9996 กล่าวคือเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันและในอัตราที่เท่า ๆ กันหมายความว่าหลักทรัพย์ทาง 50 หลักทรัพย์ที่นำมาคำนวณดัชนี SET 50 เกือบจะเป็นตัวแทนของตลาดทั้งหมดได้เสมือนหลักทรัพย์ทุกหลักทรัพย์รวมกัน ด้วยเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะหลักทรัพย์ทั้ง 50 หลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนี SET 50 มีมูลค่าคำนวณตามราคาตลาดสูง และเป็นหลักทรัพย์ที่ผู้ลงทุนสนใจลงทุน
สรุปได้ว่า หากสนใจเลือกลงทุนในตลาดตราสารทุน ผู้อ่านจะต้องทำความเข้าใจในสิ่งเหล่านี้ก่อน คือ การรู้จักตราสารทุนว่ามีบทบาทสำคัญอย่างไร มีกี่ประเภท แล้วมีอยู่ด้วยกัน 2 ตลาด คือ ตลาดแรกและตลาดรอง อีกทั้งยังมีดัชนีที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงภาพรวมมูลค่าหุ้นด้วย เมื่อเปรียบเทียบกับตราสารอื่น ๆ ทั้งหมดนี้นักลงทุนควรทำความเข้าใจให้ดีก่อนทำการลงทุน.